น้ำดอกกะหล่ำ กำจัดหูด

หูดเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อไวรัส มีลักษณะเป็นตุ่มหนาบริเวณเล็บมือหรือเท้า ไม่มีอาการเจ็บปวด แต่ก็ทำให้เสียบุคลิกภาพ ดังนั้นการรักษาผิวหนังบริเวณเล็บมือและเท้าให้สะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญ และดอกกะหล่ำเป็นผักที่สามารถรักษาโรคนี้ได้

คุณค่าทางสารอาหารของกะหล่ำ

ดอกกะหล่ำเป็นพืชตระกูลเดียวกับคะน้า บร็อกโคลี ซึ่งเป็นผักที่มีวิตามินซีสูง นิยมนำมาผัดผัก ใส่ในแกงส้ม ลวกจิ้มรับประทานกับน้ำพริก นอกจากความอร่อยแล้วดอกกะหล่ำยังมีวิตามินบี 3 วิตามินบี 6 สังกะสี โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน และสารกลูโคไซโนเลท (Glucoinolates) สารไอโซไทโอไซยาเนท (Isothiocyanates) และสารอินโดล (Indoles) ซึ่งเป็นสารช่วยยับยั้งการก่อตัวของสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง

ประโยชน์ต่อสุขภาพ

ดอกกะหล่ำช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายและช่วยผลิตเฮโมโกลบิน อันเป็นเม็ดเลือดแดงที่สำคัญ ช่วยป้องกันโรคผิวหนัง เช่น โรคผื่นคัน ผิวอักเสบ หอบหืด อักทั้งยังบำรุงผิวให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล เพราะมีวิตามินซี และวิตามินบี 3 มีวิตามินบี 5 ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณ มีโพแทสเซียมสูงซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิต นอกจากนี้สารสำคัญที่มีในดอกกะหล่ำ อาทิ สารอินโดล (Indoles) สารกลูโคไซโนเลท (Glucoinolates) สารไอโซไทโอไซยาเนท (Isothiocyanates) สารฟีโนลิกส์ (Phenolics) และสารไดไทอัลไทโอน (Dithionlerhiones) เป็นสารที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งบางชนิด ช่วยยับยั้งการก่อตัวของสารมะเร็ง และยังช่วยรักษาโรคผิวหนัง โรคเรื้อนกวาง โรคหูด และโรคเชื้อราบนผิวหนังได้ด้วย

ข้อมูลเนื้อหาเพิ่มเติม..(กะหล่ำดอก)

สูตรน้ำดอกกะหล่ำกำจัดหูด

ส่วนประกอบ

ดอกกะหล่ำ 1 หัว

วิธีทำ

ล้างดอกกะหล่ำให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นขนาดเล็กใส่ลงในเครื่องปั่น กรองกากทิ้ง นำน้ำกะหล่ำที่ได้มาทาบริเวณหูดทุกวัน จนกว่าหูดจะหลุดออกไป

สรรพคุณ

น้ำดอกกะหล่ำมีสารไอโซไทโอไซยาเนท (Isothiocyanates) และสารอินโดล (Indoles) เป็นสารช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและยังยั้งการก่อตัวของเชื้อโรค ช่วยรักษาโรคหูด ตาปลา แผลเรื้อรัง

blank

ข้อควรระวัง

ดอกกะหล่ำมีสาร Goitrin ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบให้แก่ผู้ป่วยโรคไทรอยด์ได้ ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ

สิ่งที่น่าสนใจ