คนส่วนใหญ่รู้จักดีว่าใบหม่อนเป็นอาหารอันโอชะของหนอนไหม แต่อาจไม่รู้ว่าผลหม่อนหรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาอังกฤษว่า Mulberry นั้นมีประโยชน์เกินกว่าจะมองข้าม ผลหม่อนมีลักษณะเป็นผลรวม คือมีหลายๆ ผลอัดรวมกันเป็นช่อเดียว รูปทรงกระบอก เมื่อยังอ่อนผลสีขาวเขียว แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง จนสีแดงคล้ำหรือสีม่วงเกือบดำเมื่อผลสุกเต็มที่ รสหวานอมเปรี้ยว
ผลหม่อนลูกเล็กๆ ลักษณะแปลกตานี้ ดูแล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าอุดมไปด้วยวิตามินซีและเอ ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ เสริมภูมิคุ้มกัน และบำรุงสายตา มีธาตุเหล็กซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง จากการวิจัยพบว่า ผลหม่อนมีสารเคอร์ซิติน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ช่วยลดการอักเสบ กระตุ้นระบบการไหลเวียนโลหิต ป้องกันโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจได้ โดยสารดังกล่าวจะมีมากในผลหม่อนสุก และร่างกายจะได้รับเคอร์ซิตินในปริมาณมากขึ้นเมื่อกินในรูปของผลแห้ง
สารสำคัญอีกชนิดที่ทำให้ผลหม่อนมีสีแดงจนถึงม่วงก็คือแอนโทไซยานิน ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอก ลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ ประโยชน์ของผลหม่อนไม่หมดเพียงเท่านี้ ยังมีสรรพคุณช่วยให้ชุ่มคอ แก้ไอ ปรับสมดุลระบบขับถ่าย บำรุงประสาทและไต ช่วยสลายแอลกอฮอล์ในร่างกาย แก้ผมหงอกก่อนวัย และบรรเทาอาการปวดข้อได้อีกด้วย
ด้วยว่าในอดีตเน้นปลูกหม่อนพันธุ์ที่ให้ใบเพื่อเลี้ยงหนอนไหม ผลจึงมีขนาดเล็ก เนื้อน้อย ไม่นำมากินเป็นผลสด แต่ปัจจุบันกรมวิชาเกษตรได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ จนได้พันธุ์ลูกผสมที่มีขนาดผลใหญ่ เนื้อหนา เหมาะที่จะกินเป็นผลสดหรือนำมาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ แยม ไวน์ หรือเยลลี ส่วนใบหม่อนก็นิยมนำมาทำชา ซึ่งมีผลการวิจัยยืนยันว่า ใบหม่อนมีสารดีออกซีโนจิริมัยซิน (deoxynojirimycin) ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด สารกาบา (GABA-gamma aminobutyric acid) ช่วยลดระดับความดันโลหิต สารไฟโทสเตอรอล (phytosterol) ลดระดับคอเลสเตอรอล รวมทั้งสารเคอร์ซิตินและเคมเฟอรอล ซึ่งเป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์เช่นเดียวกับที่มีในผลหม่อน ด้วยสรรพคุณมากมายทั้งในผลและใบนี้เอง หม่อนจึงไม่ใช่พืชที่ปลูกไว้เพียงแค่เก็บใบเพื่อเลี้ยงหนอนไหมอีกต่อไป