ขึ้นฉ่าย

ชื่อวงศ์ : UMBELLIFERAE

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Apium graveolens L.

ชื่อสามัญ : Celery

ชื่อพื้นเมืองอื่น : ผักข้าวปืน, ผักปืน, ผักปืม (ภาคเหนือ) ; ขึ้นฉ่าย (ภาคกลาง – ประเทศจีน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ไม้ล้มลุก (H) มีอายุประมาณ 1-2 ปี ลักษณะลำต้นเล็ก สูงประมาร 30 ซม. สีเขียวเข้ม ทั้งต้นจะอ่อนนิ่มและมีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะ ลำต้นและใบคล้ายผักชี แต่ใบใหญ่กว่า มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ลักษณะลำต้นอวบใหญ่ สีขาวเหลือง สูงประมาณ 40-60 ซม. และขึ้นฉ่ายจีน

ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ออกตรงข้ามกัน ประกอบด้วยใบย่อยลักษณะใบรูปลิ่ม 3-7 ใบ ขอบใบหยัก เป็นแฉกรูปร่างคล้ายมือ ก้านใบยาวแผ่ออกเป็นกาบ

ดอก ออกดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่มซ้อนกัน ดอกมีสีขาวขนาดเล็ก

ผล ลักษณะของผลเล็กมาก เป็นสัน มีสีน้ำตาล ภายในมีเมล็ดเพียง 1 เมล็ด เมื่อสุกเต็มที่จะแตกออกเป็น 2 ซีก

นิเวศวิทยา

เป็นพืชพื้นเมืองของชาวยุโรป เจริญเติบโตได้ดีในที่ลุ่มชื้นแฉะ เช่น ริมคลองหรือริมตลิ่ง ซึ่งดินมีความชื้นปานกลาง สามารถขึ้นได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย

การปลูกและขยายพันธุ์

ปลูกได้ทุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุยและมีความชื้นปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นโดยการติดปลายปักชำ หรือด้วยการเพาะเมล็ด

ประโยชน์ทางยา

รสและสรรพคุณในตำรายา

ราก รสเฝื่อน รักษาอาการปวดตามข้อ หรือโรคเกาต์ ใช้เป็นยาบำรุง ขับปัสสาวะ ใช้ประกอบอาหารเพื่อดับคาวปลาและเนื้อ โดยใส่ในหม้อต้มน้ำซุป

ทั้งต้น รสเฝื่อนปร่า มีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ช่วยขับลม ขับปัสสาวะ เป็นยาดับร้อน บำรุงสมอง ลดอาการปวดข้อ ช่วยคุมกำเนิดโดยมีฤทธิ์ลดปริมาณการสร้างอสุจิได้

เมล็ด ช่วยขับลมและเป็นยาระงับอาการปวด น้ำมันที่สกัดออกมาจากเมล็ดช่วยสงบประสาท

ใบ รสมันปร่า เป็นยาระงับอาการปวด ช่วยขับลม น้ำมันที่สกัดออกมาจากเมล็ดช่วยสงบประสาท

วิธีและปริมาณที่ใช้

  • ระงับอาการปวด โดยใช้ใบสดประมาณ 15-20 ใบ รับประทานหรือคั้นเอาน้ำดื่ม
  • ก้านใบและใบ ใช้ในการแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง แต่งกลิ่นอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน
  • รักษาอาการความดันโลหิตสูง โดยรับประทานก้านใบ 4 ก้านต่อวัน เป็นประจำทุกวัน ความดันโลหิตจะค่อยๆ ลดลงเป็นปกติ

*หมายเหตุ

  1. บางคนแพ้ หากรับประทานก่อนหรือหลังการออกกำลังกายอย่างหนัก จะทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ขึ้นได้
  2. คนที่มีความดันโลหิตยังปกติอยู่ แต่เริ่มจะสูงขึ้น ควรทดลองเริ่มรับประทานวันละ 4-5 ก้านต่อวัน โดยบอกแพทย์ที่รักษาให้ทราบเพื่อตรวจวัดความดันโลหิตดูว่าจะควบคุมระดับให้ลดลงโดยไม่ต้องใช้ยาได้หรือไม่

สิ่งที่น่าสนใจ