
อะโวคาโดเป็นผลไม้เปลือกแข็ง มีต้นกำเนิดในแถบอเมริกากลางและทางตอนใต้ มีลักษณะเปลือกหนาขรุขระ มีสีเขียวเข้มแกมน้ำตาล แต่เนื้อภายในนิ่มสีเขียวอ่อน ในปัจจุบันเมืองไทยสามารถหาซื้อรับประทานได้แล้ว แต่ราคาค่อนข้างแพง แม้ว่าจะสามารถปลูกได้เองที่เมืองไทย คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่นิยมบริโภคอะโวคาโด ทั้งที่อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพค่อนข้างมาก โดยสามารถนำอะโวคาโดมาทำสลัด ไอศกรีม ซูชิ ทาขนมปังแทนเนย หรือรับประทานกับเกลือป่นให้รสชาติเค็มๆ มันๆ
สามารถอาหารสำคัญในผลอะโวคาโด
ในผลอะโวคาโดมีวิตามินอีสูง วิตามินเอ วิตามินบีรวม กรดโฟลิค และแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น แคลเซียม เหล็ก โพแทสเซียม และแมกนีเซียม นอกจากนั้นยังมีเส้นในอาหาร และกรดไขมันไม่อิ่มตัว กรดโอลิอิค (Oleic acid) ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยลดปริมาณ LDL-cholesterol ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลเสียต่อร่างกายและเพิ่มปริมาณ HDL-cholesterol ในเลือดซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลดีต่อร่างกาย
ประโยชน์ของอะโวคาโด
อะโวคาโดอุดมด้วยวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันร่างกายจากโรคมะเร็งชนิดต่างๆ และโรคหัวใจ ส่วนกรดโอลิอิค ช่วยลดระดับคอเลสเตอลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ โพแทสเซียม ช่วยลดระดับความดันโลหิตสูง วิตามินชนิดต่างๆ ที่อยู่ในอะโวคาโด ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันโรคเหน็บชา เป็นต้น
ส่วนด้านความสวยความงาม ผู้หญิงในอเมริกาใต้ใช้ผลอะโวคาโดสดมานานนับหลายศตวรรษ เพื่อช่วยบำรุงผิวพรรณป้องกันผิวแห้ง และบำรุงเส้นผมโดยใช้เนื้ออะโวคาโดหมักผม เพื่อป้องกันผมแห้งเสียจากแสงแดด
ข้อมูลเนื้อหาเพิ่มเติม..(อะโวคาโด)
สูตรหมักผมจากอะโวคาโด ป้องกันเส้นผมแห้ง
ส่วนผสม
- อะโวคาโดสุก 1/2 ผล
- ไข่แดง 1 ฟอง
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนชา
วิธีทำ
ผ่าอะโวคาโดแล้วนำมาใช้แค่ครึ่งเดียว คว้านเอาแต่เนื้อใส่ลงในชามผสม ตามด้วยไข่แดงและน้ำมันมะกอกผสมให้เข้ากัน หรือใส่ในเครื่องปั่นจนให้เข้ากันดี นำส่วนผสมมาหมักผมโดยใช้หมวกคลุมผม ทิ้งไว้ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และสระผมด้วยแชมพูตามปกติ
สรรพคุณ
อะโวคาโดมีวิตามินอี ช่วยบำรุงผมแห้งเสีย ผมแห้งกรอบ ขาดน้ำหนัก ให้กลับมามีสุขภาพดี และช่วยให้ผมนุ่มลื่น มีประกายเงางาม