พลู

ชื่อวงศ์ : PIPERACEAE

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper bette L.

ชื่อสามัญ : Betel pepper

ชื่อพื้นเมืองอื่น : พลู (ภาคกลาง) ; ซีเก๊ะ (มลายู-นราธิวาส)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ไม้เถา (C) เลื้อยยาว ลักษณะของลำต้นอวบน้ำ มีร่องเล็ก ๆ สีน้ำตาลยาวขนานไปตลอดลำต้น สันร่องมีสีเขียว มีข้อและปล้องชัดเจน มีรากออกรอบข้อไว้ยึดเกาะ ทุกส่วนมีกลิ่นหอมเฉพาะ

ใบ เป็นใบเดี่ยว ติดกับลำต้นแบบสลับ ลักษณะใบรูปไข่หรือรูปหัวใจคล้ายใบโพธิ์ ปลายใบแหลม ผิวใบเรียบ ผิวแผ่นใบมันและมีสีเข้มกว่าผิวท้องใบ ขอบใบเรียบ ใบอ่อนจะเป็นสีเขียวและใบแก่สีจะเข้มขึ้น และมีกลิ่นฉุน ใบกว้าง 3-10 ซม. และยาวประมาณ 4-12 ซม.

ดอก ออกเป็นกลุ่มเรียงอยู่บนก้านช่อดอก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียจะแยกกันอยู่คนละดอก

ผล ลักษณะผลรูปกลม อัดแน่นเป็นช่อ เนื้อนุ่ม เมื่อสุกมีสีแดง

นิเวศวิทยา

เป็นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย แอฟริกา พบขึ้นอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นสูง ชอบอากาศร้อน แต่ไม่ชอบแสงแดดจัดหรืออุณหภูมิสูงเกินไป นิยมปลูกในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย

การปลูกและขยายพันธุ์

เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายหรือดินเหนียวร่วน ระบายน้ำได้ดี ปลูกง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำลำต้นหรือเถา ทำค้างหรือหลักเพื่อให้รากพลูสามารถยึดเกาะและเลื้อยได้

ประโยชน์ทางยา

รสและสรรพคุณในตำรายา

ใบ รสเผ็ดเมา แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปากเหม็น ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องเสีย กระตุ้นให้กระปรี้กระเปร่า ใช้ภายนอกแก้ปวดบวมฟกช้ำ ฆ่าเชื้อโรค แก้การอักเสบของเยื่อจมูกและคอ แก้กลาก แก้น้ำกัดเท้า แก้คัน แก้ลมพิษ

วิธีและปริมาณที่ใช้

  1. รักษากลากเกลื้อน โดยใช้ใบสด 3-5 ใบ ล้างให้สะอาด โขลกให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรง คั้นเอาน้ำทาบริเวณที่เป็นและเอากากพอกด้วยวันละ 3 ครั้ง นานประมาณ 3-4 อาทิตย์
  2. รักษาอาการแพ้ลักษณะลมพิษ อักเสบ แมลงสัตว์กัดต่อย โดยใช้ใบสด 1-7 ใบ โขลกให้ละเอียดผสมกับเหล้าโรงแช่ไว้ประมาณ 5 นาที ทาบริเวณที่เป็น
  3. แก้อาการปวดท้อง โดยใช้ใบสด 10-15 ใบ ล้างให้สะอาด ต้มในน้ำเดือด 500 ซีซี กรองเอาแต่น้ำดื่ม

ข้อควรทราบ

  1. ห้ามใช้กับแผลเปิด เนื่องจากจะทำให้แสบมาก
  2. ไม่ควรทำยาทิ้งไว้นาน เพราะจะทำให้ยาเสื่อมประสิทธิภาพได้ จึงควรทำเฉพาะเวลาจะใช้เท่านั้น

สิ่งที่น่าสนใจ